....ขอต้อนรับ....

เข้าสู่ Blog แห่งคลังความรู้...

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

"เรือจ้าง"

ทุกครั้งในวันไหว้ครูจะได้ยิน บทสวดสรภัญญะจากนักเรียน/นักศึกษาเป็นประจำทุกปี ครูจะจดจำบทสวดสรภัญญะมาตลอด นับตั้งแต่เป็นนักเรียน นักศึกษา และเป็นครูของพวกเราทุกคน
“ปาเจรา จริยา โหนติ คุณฺตตรา นุสาสกา “
ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอรปเกิดประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในการปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญา ให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทยเทอญ
ปัญญา วุฑฒิ กเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหํ
จากคำว่า “ เรือจ้าง“ ที่ใช้เปรียบเทียบกับครู จนตัวเองต้องกลายมาเป็นลำเรือ ที่ต้องถ่อต้องพาย พาเด็ก ๆ อย่างพวกเราผู้เป็นอนาคตของชาติ ไปถึงฝั่งหนึ่งให้ได้นั้น มันทำให้ครูได้รู้ ได้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น แม้จะยังไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม
ครูก็ยังเป็นครู ความรู้สึกที่ดีที่สุดของการเป็นลำเรือในวันนี้ ไม่ใช่ความหวังในตำแหน่งทางวิชาการ ไม่ใช่เพราะต้องการให้พวกเรายกมือไหว้ ไม่ใช่เพราะมีคนมาให้เกียรติด้วยคำพูดที่ปั้นไพเราะเสนาะหู แต่คือ การได้ให้โอกาสทาง“ปัญญา” กับพวกเราที่ครูมีความรู้สึกรักและผูกพัน

3 ความคิดเห็น:

  1. อืม ดีครับ การให้ปัญญากับผู้อื่นกับคนที่เรารักและผูกพัน จะให้ดีกว่านั้นก็คือทุกๆคน ปัญญาคือความรู้แจ้ง ว่ากายนี้ ใจนี้ไม่ใช่เรา เป็นทุกข์ การจะทำให้รู้แจ้งอย่างนี้ได้คงมิใช่การคิดเอาอย่างเดียว แต่คือการภาวนารู้กายรู้ใจด้วยจิตที่ตั้งมั่น เป็นสัมมาสมาธิ พวกเราครูกำลังดำเนินเราตามบรมครูคือพระพุทธเจ้าครับ

    ตอบลบ
  2. ดำเนินรอยตามบรมครูคือพระพุทธเจ้า (แก้ใข)

    ตอบลบ